
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 7 โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นพ.วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ รศ.นพ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ นพ.วรวุฒิ โฆวัชรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันทราย เชียงใหม่ พญ.ศศิธร ศิริมหาราช ผู้อำนวยโรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ และ พญ.รัฐกานต์ กาวิละ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านโรคติดเชื้อโรงพยาบาลนครพิงค์ร่วมกันแถลงข่าวผลการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดสะสม 28 ราย นับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา รักษาหายออกโรงพยาบาลไปแล้ว เหลือที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 23 ราย แบ่งเป็นโรงพยาบาลนครพิงค์ 8 ราย โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 1 ราย โรงพยาบาลประสาท 7 ราย และโรงพยาบาลสันทราย 5 ราย
นพ.จตุชัย กล่าวยืนยันความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งห้องความดันลบ เครื่องช่วยหายใจ และเวชภัณฑ์ในการรักษาผู้ป่วย ด้วยความร่วมมือของเครือข่ายโรงพยาบาลทั้งรัฐ และเอกชน และหากพบมีการแพร่ระบาดจำนวนมากขึ้น ทางทีมแพทย์ก็สามารถขอสนับสนุนจากส่วนกลางได้ทันที โดยจำนวนห้องความดันลบทั้งจังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งหมด 61 เตียง และยังมีเตียงดูแลผู้ป่วยที่มีอาการปานกลาง 92 เตียง รวม 150 เตียง ขณะเดียวกันจังหวัดเชียงใหม่ยังมีความพร้อมด้านโรงพยาบาลสนาม ที่สามารถรองรับได้อีก 260 เตียง ซึ่งเตรียมไว้ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ 7 รอบพระชนมพรรษาจังหวัดเชียงใหม่ สถานที่เดิมที่เคยเตรียมไว้รองรับเมื่อครั้งมีการระบาดในระลอกแรก โดยจะเปิดใช้ โรงพยาบาลสนามต่อเมื่อมีผู้ป่วย 60 รายขึ้นไป

“ส่วนการค้นหาเชิงรุกทางทีมสอบสวนโรคยังทำกันอย่างต่อเนื่อง โดยจะขยายไปยังแหล่งท่องเที่ยว สวนดอกไม้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำด่านชายแดน 5 อำเภอ เพื่อทำให้จังหวัดเชียงใหม่ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด 19 มากที่สุด”
นพ.จตุชัย กล่าวต่อว่า การสอบสวนโรคในเคสผู้ป่วย 3 คนที่เป็นครอบครัวเดียวกัน คือ รายที่ 65 , 68 และ 69 จากการสอบสวนโรคคาดว่าจะเริ่มต้นจากหญิงอายุ 50 ปี ซึ่งเป็นแม่ที่ไปร่วมงานแต่งงานที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เพราะมีผู้เดินทางจากจังหวัดนครปฐมมาร่วมงานด้วย เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะเป็นการติดเชื้อที่นำเข้ามา ขณะนี้ทีมสอบสวนโรคกำลังไล่ติดตามไทม์ไลน์อย่างละเอียด เพื่อค้นหาต้นต่อของการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ป่วยทั้ง 3 รายนี้

อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลและแฮลกอลฮอล์ สแกนแอปพริเคชั่น ไทยชนะ และอย่าหลงเชื่อข่าวลือ หรือ เฟคนิวส์ ยืนยันว่า จังหวัดเชียงใหม่ไม่มีการปิดบังข้อมูล แต่การสอบสวนโรคต้องทำอย่างละเอียด จากนั้นจึงจะเผยแพร่เพื่อให้ประชาชนได้ระมัดระวังตัว
“สำหรับอาการผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนใหญ่อาการดีขึ้น บางรายทรงตัว และมี 1 ราย ที่เป็นผู้ป่วยชาวญี่ปุ่น ซึ่งเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดชลบุรี มีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง และสะเก็ดเงิน จึงได้ย้ายตัวจากโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ มารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์เมื่อวันที่ 7 มกราคม และแพทย์ ได้เริ่มให้ยาต้านไวรัส ผู้ป่วยมีอาการตอบสนองต่อการรักษา ส่วนผู้ป่วยที่อาการดีขึ้น คาดว่าจะออกกลับบ้านได้ในวันที่ 18 มกราคมนี้” นพ.จตุชัย กล่าว
สำนักข่าวเห็ดลม รายงาน