เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ที่ห้องประชุม ร้านไก่ย่างโคราช อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมตัวแทนแนวร่วมจาก 55 องค์กร ประชุมหารือเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวหลังสมาชิกแนวร่วมถูกออกหมายจับและแกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพถูกค้นบ้านพักจากกรณีป้ายปริศนาเผยรายชื่อตุลาการ 5 คน เหตุเกิดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ พร้อมแกนนำร่วมกันแถลงยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีป้ายปริศนาแต่อย่างใด และแม้ว่าจะมีข่าวว่ามีความพยายามที่จะต้องดำเนินคดีกับตัวแกนนำให้ได้ ก็ยืนหยัดที่จะต่อสู้เพื่อเรียกร้องขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพให้ได้ โดยจะเดินหน้ารณรงค์และจัดกิจกรรมต่อต้านโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการต่อไป
“วันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น. เครือข่ายจะรวมตัวกันนำโคมควันรูปป่าแหว่งไปลอยที่หน้าเจดีย์กิ่ว เทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อแสดงออกถึงสัญลักษณ์ของการต่อต้านจากใจชาวเชียงใหม่ในช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือยี่เป็งเชียงใหม่ประจำปี 2561 เดินหน้าผูกริบบิ้นสีเขียว พร้อมส่งไปรษณียบัตรไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้รีบแก้ปัญหานี้โดยเร็ว และสุดท้ายคือ ในระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคม 2561 ชาวเชียงใหม่จะรวมตัวกันนำช่อดอกไม้ไปมอบให้ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะตัวแทนคนเชียงใหม่ไปร่วมประชุมใหญ่กับคณะกรรมการระดับประเทศในวันที่ 5 ธันวาคม 2561 เพื่อนำความต้องการที่แท้จริงของเราไปเสนอต่อที่ประชุม”
นายธีระศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้พวกเรามีกำลังใจดีอยู่ เพราะแนวร่วมเพิ่มขึ้น เราทำสิ่งที่ถูกต้อง เราร่วมกันปกป้องผืนป่า และไม่มีเจตนาร้าย ไม่ต้องการเอาชนะใคร ขอได้โปรดคืนป่าดอยสุเทพให้กับชาวเชียงใหม่ด้วย หากเจ้าหน้าที่จะพยายามเชื่อมโยงเอาผิดแกนนำอย่างตนเองก็คงได้แต่ทำใจ และต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งล่าสุดศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยื่นมือเข้ามาที่จะช่วยเหลือแล้ว
“ในการประชุมครั้งใหญ่ของคณะกรรมการระดับประเทศ ผมขอฝากถึงนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า สิ่งที่รับปากชาวเชียงใหม่ไว้ท่านยังไม่ได้ทำเลย แม้แต่นายกรัฐมนตรีเองก็ตามที่บอกว่าจะต้องไม่มีคนอยู่ แต่ทุกวันนี้ก็มีคนอยู่ในบ้านป่าแหว่ง นี่หรือคือคำสัญญาของผู้มีอำนาจ ขอให้ยุติเรื่องนี้ด้วยการคืนป่าให้กับคนเชียงใหม่ ผมไม่อยากพึ่งการเมือง แต่เมื่อเราพึ่งพวกท่านไม่ได้ หากมีพรรคการเมืองใดมีนโยบายที่จะรื้อป่าแหว่งเพื่อร่วมกันรักษาป่าเราก็คงสนใจและยินดีร่วมมือ” นายธีระศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมและแถลงข่าวของเครือข่ายในวันนี้ มีสื่อมวลชนและชุดหาข่าวของทหารและตำรวจให้ความสนใจติดตามความเคลื่อนไหวและร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
สำนักข่าวเห็ดลม รายงาน