วันที่ 17 กันยายน 2561 ที่ห้องประชุมตะวัน กังวานพงศ์ อาคารยุทธศาสตร์ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ( มช .) นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางตรวจเยี่ยมโครงการ Smart City ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหารือเกี่ยวกับโครงการ CMU Smart City-Clean Energy โดยมี ศาสตราจารย์คลินิก นพ . นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องในโครงการ Smart City ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เริ่มเรียนรู้และต่อยอดไปสู่การใช้งานจริง โดยเน้นเรื่องการส่งเสริมเกษตรกรรม การท่องเที่ยว และปัญหาเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ก่อนจะต่อยอดไปยังจังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียงในอนาคต
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งใจสร้างและพัฒนาให้เป็นต้นแบบของเมืองอัจฉริยะ โดยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม เพื่อลดค่าใช้จ่ายและลดการใช้ทรัพยากรอย่างมีส่วนร่วม ภายใต้แนวคิด ‘ เมืองน่าอยู่ ทันสมัย ให้ประชาคมในเมืองอยู่ดี มีสุข อย่างยั่งยืน ’ ซึ่งจะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานทดแทนมากกว่า 50% ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากกว่า 30% ใช้ระบบบริหารจัดการขยะและน้ำเสียได้ด้วยตัวเอง 100% พร้อมเป็นต้นแบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและครบวงจร นอกจากนี้ยังมีระบบการสัญจรอัจฉริยะ ที่มีการรักษาความปลอดที่สามารถติดตามรถภายในมหาวิทยาลัยอย่างครอบคลุม มีการสัญจรสาธารณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งรถไฟฟ้าสาธารณะ รถตู้พลังงานขยะ ยังสนับสนุนให้มีการใช้จักรยานสาธารณเป็นทางเลือกอีกด้วย
สำหรับโครงการส่งเสริมพื้นที่พิเศษสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Smart City เป็นโครงการของรัฐบาล ซึ่งมีการนำร่องแล้วในจังหวัดภูเก็ต ขอนแก่น และจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นหัวเมืองใหญ่ โดยจังหวัดเชียงใหม่ดำเนินงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Smart City ของจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘ กินดี อยู่ดี มีสุข ’ ได้แก่ Smart Economy , Smart Tourism และ Smart Agriculture แต่ยังไม่ทิ้งวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในรูปแบบล้านนา ขณะเดียวกัน ยังได้พัฒนาให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวสุขภาพ รองรับการพักรักษาตัวในระยะยาว และเป็นศูนย์กลางการให้บริการการรักษาเฉพาะทางในเขตจังหวัดภาคเหนือ
โดยนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้บูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม โดยมีเป้าหมายให้เชียงใหม่มีความพร้อมเป็นเมือง Smart City ที่สมบูรณ์ ซึ่งได้ใช้ถนนนิมานเหมินท์ ที่เป็นถนนสายเศรษฐกิจสำคัญของเมืองเชียงใหม่ ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและแผนพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ( พ . ศ .2561 – 2564) ภายใต้ชื่อ Smart Nimman อาทิ การปรับปรุงภูมิทัศน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การติดตั้งกล้อง CCTV ของตำรวจ การสร้างระบบจุดจอดรถอัจฉริยะ เป็นต้น และโครงการ Smart University ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สู่การเป็น Smart City ซึ่งจะทำให้อำนวยความสะดวก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับผู้ที่จะมาเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การสร้างความรับรู้ให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง ตลอดจนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ เพื่อจะสามารถดำเนินงานในการขับเคลื่อนเมืองเชียงใหม่ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
สำนักข่าวเห็ดลม รายงาน